ทำไมการเปลี่ยนผ่านของดิจิทัล (Digital Transformation) DX จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมพร้อมสร้างความยืดหยุ่น?
การเตรียมตัวคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่คุณจะต้องแผนสำรองที่น่าเชื่อถือท่ามกลางสภาวะที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้อย่างไร คำตอบก็คือการเตรียมรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดนั่นเอง ในโพสต์นี้เราจะมาค้นพบความสำคัญของกลยุทธ์การปฏิรูปทางดิจิทัล (DX) ที่มีต่อการสร้างความยืดหยุ่นให้ธุรกิจและสิ่งนี้จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้อย่างไร
ผู้นำธุรกิจจำเป็นต้องมองภาพในมุมกว้างจึงจะสามารถปรับตัวและตัดสินใจได้ดี โดยจะต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ทั้งในแง่ระยะสั้นและระยะยาว พร้อมชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อด้อยอยู่เสมอ การเติบโตที่ยั่งยืนและเหมาะสมนั้นเกิดขึ้นได้เมื่อเราเลิกใช้กลยุทธ์แบบป้องกันตัวและเอาแต่ตั้งรับ แล้วหันไปหาแนวทางที่ยั่งยืนกว่าและเน้นไปที่การเติบโตเป็นสำคัญแทน ในการนี้ บริษัทจำเป็นต้องคอยมองหาไอเดียใหม่ๆ และข้อมูลจากตลาด ลูกค้า และชุมชนอยู่เสมอ และพร้อมยินดีที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางที่ใช้ด้วย นอกจากนี้
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือแผนสร้างความยืดหยุ่นที่แข็งแกร่งโดยอิงจากเป้าหมายทางธุรกิจที่แน่นอนชัดเจนเพื่อเป็นหลักประกันถึงความสำเร็จในอนาคต
ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญกับเป้าหมายอะไรกันบ้าง
จากงานวิจัยโดย Ecosystm ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกกำลังเปลี่ยนลำดับความสำคัญไปยังการนำนวัตกรรมมาใช้สร้างสินค้า บริการ และประสบการณ์ของพนักงาน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นั่นก็เพราะว่าผู้นำธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกนั้นเริ่มจะตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งของนวัตกรรมที่มีต่อการช่วยทำให้ก้าวนำคู่แข่งและสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าการปฏิรูปทางดิจิทัลคือสิ่งสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ แต่บริษัทนั้นสามารถปรับเปลี่ยนได้รวดเร็วแค่ไหน สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนและจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและวางแผน พร้อมเว้นที่ว่างไว้เผื่อสำหรับการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงตลอดทั้งกระบวนการอีกด้วย.
การใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาดีๆ ในเอเชีย พร้อมเตรียมรับการเปลี่ยนแปลง
บทความจาก AESC ในหัวข้อ การปฏิรูปของธุรกิจในเอเชีย ได้กล่าวถึงการที่ธุรกิจในเอเชียนั้นมีการใช้นวัตกรรมการอย่างแพร่หลาย ทั้งยังมีตลาดขนาดใหญ่ แหล่งทรัพยากรมากมาย และเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก พวกเขาสามารถคิดไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาและปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลในเอเชียเองก็ยังมีส่วนช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมรับการเติบโตในอนาคตด้วยการส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และสนับสนุนให้ธุรกิจก้าวไปสู่อนาคตดิจิทัล .
จากข้อมูลของธนาคาร Asian Development เป็นที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในเอเชียและแปซิฟิกจะขยายตัวขึ้น 4.8% ในปี 2023 และ 2024 โดยเพิ่มขึ้นจาก 4.2% ในปีที่แล้วท่ามกลางการบริโภค การท่องเที่ยว และการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ตอนนี้นับเป็นเวลาที่เหมาะกับการขยายตัวทางธุรกิจ แต่บริษัทก็ต้องระมัดระวังและวางแผนสำหรับอนาคตด้วยเช่นกัน และธุรกิจจะเตรียมพร้อมรับมือกับช่วงเวลาลำบาก และเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาดีๆ ได้อย่างไร การลงทุนกับกลยุทธ์เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นคือคำตอบ สิ่งนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถคงความแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
วิธีการลงทุนด้านกลยุทธ์เพื่อยกระดับความยืดหยุ่น
1. เริ่มจากการสร้างโมเดลธุรกิจที่ผนวกรวมความต้องการของพนักงาน โครงการ และลูกค้าเข้าด้วยกันออกมาเป็นสิ่งที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม
2. มีการนำทรัพยากรไปใช้งาน แจกจ่าย และเชื่อมต่อถึงกันในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ โดยให้แน่ใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงสิ่งที่จำเป็นในการทำงานได้
3. สนับสนุนพนักงานที่ทำงานร่วมกับคุณและพนักงานที่คุณทำงานรองรับเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะรับมือกับปัญหาที่พบบ่อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สองขั้นตอนในการเตรียมธุรกิจให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
การที่จะทำให้ธุรกิจของคุณแข็งแรงและสามารถก้าวข้ามความท้าทายได้นั้น มีสองสิ่งสำคัญที่คุณต้องปฏิบัติ
- ข้อแรก ใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างแผนการง่ายๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในแบบดิจิทัลของคุณ นั่นหมายถึงทำให้ทุกคนในบริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อติดต่อสื่อสารและทำงานได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทั้งในออฟฟิศ ที่บ้าน หรือแม้แต่ในอีกประเทศ
- ข้อสอง คุณจะต้องส่งเสริมให้พนักงานทดลองสิ่งใหม่ๆ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ นั่นหมายถึงการมอบเครื่องมือและการสนับสนุนที่จำเป็นต้องใช้ในการคิดหาไอเดียใหม่ๆ และลองทำสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีใหม่ๆ
การเตรียมพร้อมสร้างความยืดหยุ่นโดยการใช้เทคโนโลยีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อแบ่งปันไอเดียกับคนอื่นๆ และทำงานร่วมกัน พร้อมกับรู้สึกมั่นใจว่าสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิธีการปฏิบัติตนและวิธีคิดแบบใหม่ การลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะทำให้บริษัทช่วยให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่บริษัทจะต้องทำมากกว่านั้น เตรียมตัวสร้างความยืดหยุ่นด้วยการกระตุ้นให้พนักงานใช้นวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมมอบรางวัลให้กับการกระทำและไอเดียสร้างสรรค์เหล่านั้นด้วย
คุณจำเป็นจะต้องทำให้บริษัทของตนเองตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ และส่งเสริมให้ทดลองสิ่งใหม่ๆ การมีแผนรองรับเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้นจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับองค์กรของคุณ