สร้างอนาคตของการทำงาน
ทั่วโลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการปฏิวัติรูปแบบการทำงานหลังภาวะโรคระบาดที่ส่งผลให้สิ่งที่พนักงานให้คุณค่านั้นเปลี่ยนแปลงไปมากมาย หลายคนหันมาให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นพร้อมไปกับการวางแผนอาชีพในระยะยาว ท่ามกลางฉากทัศน์ทางธุรกิจยุคใหม่นี้ บริษัทต้องรับมือกับความท้าทายในการตอบสนองต่อความต้องการและคุณค่าของพนักงานด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ อนาคตของพนักงานที่มีความสามารถในสถานที่ทำงานหลังภาวะโรคระบาดจะเป็นอย่างไร ความยืดหยุ่นนั้นจะช่วยเอื้อต่อพัฒนาการทางวัฒนธรรมในสถานที่ทำงานได้อย่างไร
เรามาร่วมพูดคุยกับเกวน หว่อง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น (FB) เอเชียแปซิฟิก เพื่อเรียนรู้ว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั้นจะนำเอาพลังของทัศนคติ วัฒนธรรม และการสร้างทักษะอย่างต่อเนื่องมาช่วยบ่มเพาะพนักงานให้มีความยืดหยุ่นได้อย่างไร
รูปแบบการทำงาน สถานที่ทำงาน และพนักงาน
ความท้าทายอันดับ 1 ที่สายธุรกิจของคุณกำลังประสบคืออะไร แต่ละตลาดมีความแตกต่างกันที่ตรงไหนบ้าง
Gwen Wong: เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จึงกลายเป็นเรื่องยากในการจะก้าวตามให้ทันเพื่อจะดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถเอาไว้ ความท้าทายที่สำคัญข้อหนึ่งก็คือการยกระดับทักษะและเปลี่ยนทักษะให้พนักงาน ในการจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จนั้น เราต้องอาศัยพนักงานที่พร้อมจะยกระดับศักยภาพของตนเองและเรียนรู้ทักษะทางเทคโนโลยีที่พัฒนาใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อจะคว้าโอกาสในการเติบโต
คุณรับมือกับความท้าทายนี้อย่างไร และคุณทำงานร่วมกับทีมผู้นำอย่างใกล้ชิดแค่ไหน
Gwen Wong: แม้การลาออกครั้งใหญ่ (Great Resignation) จะมีข้อเสียที่รู้กันดี แต่ช่วยก็ทำให้เราหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาพนักงานเอาไว้มากขึ้นด้วย ด้วยการสนับสนุนจากทีมผู้นำ FB เราจึงได้นำเอากลยุทธ์ในการสร้าง ยืม และซื้อมาใช้เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางทักษะที่สำคัญและพัฒนาความสามารถให้พนักงานภายในองค์กรควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการวางแผนพนักงานในเชิงกลยุทธ์ร่วมกับหัวหน้าแผนกต่างๆ และการวิเคราะห์พนักงานเพื่อช่วยกำหนดองค์ประกอบที่เหมาะสมกับการนำมาปฏิบัติใช้จริง
พนักงานที่พร้อมยกระดับทักษะของตนเองอย่างต่อเนื่อง ยินดีพัฒนาศักยภาพ และมีทัศนคติที่ต้องการเติบโตนับเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำมาใช้พิจารณาในการมองหาพนักงานที่มีฝีมือโดดเด่น
เราเริ่มดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานเพื่อรับฟังและทำความเข้าใจว่าพนักงานรู้สึกและคิดเห็นอย่างไรบ้าง และจะมีการจัดทำกลุ่มสำรวจความคิดเห็นย่อยเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงซึ่งอ้างอิงมาจากความคิดเห็นของพนักงานด้วย
ความยืดหยุ่นในที่ทำงาน: ทัศนคติ ทักษะ และวัฒนธรรม
การมีความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงานแปลว่าอะไรกันแน่สำหรับพวกเราที่ FB
Gwen Wong: หนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของความยืดหยุ่นในที่ทำงานก็คือการมีทัศนคติที่มุ่งเน้นการเติบโต นั่นแปลว่าคุณจะมองว่าความท้าทายและความล้มเหลวล้วนเป็นโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งทิศทางองค์กร ประจำปีงบประมาณ 2023 ของเราก็เน้นย้ำสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะสามารถแข่งขันในตลาดได้ต่อเนื่องและสนับสนุนวัฒนธรรมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างไม่มีสิ้นสุด
ระหว่างการมาเยือนเมื่อไม่นานมานี้ ประธานและซีอีโอของ FB Corp คุณนาโอกิ ฮามะก็ได้เน้นย้ำเช่นกันว่าการจะเป็น FB ได้อย่างที่มุ่งหวังไว้นั้น เราจะต้องบ่มเพาะวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานทุกคนกล้าที่จะรับมือกับความท้าทายโดยไม่เกรงกลัวความล้มเหลว
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ FB มีการวางแผนเพื่อเตรียมตัวให้กับพนักงานอย่างไร และจะวัดระดับความยืดหยุ่นของพนักงานอย่างไร
Gwen Wong: ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ FB ได้มีการเน้นไปที่ด้านกลยุทธ์สามประการเพื่อสร้างพนักงานที่มีความยืดหยุ่น เรามีการนำเปิดโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อให้พนักงานได้ยกระดับทักษะและความสามารถของตนเอง ซึ่งรวมถึงทักษะด้านอารมณ์ (Soft skills) เช่น ความฉลาดทางอารมณ์และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพโดยรวมและนวัตกรรมขององค์กรที่ดีขึ้น
โปรแกรมด้านความฉลาดทางอารมณ์ของเรามีเป้าหมายที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการตระหนักรู้และจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น ส่วนโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาและการตัดสินใจก็จะช่วยยกระดับทักษะการคิดวิเคราะห์และการคิดอย่างสร้างสรรค์
ประการที่สองก็คือเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาวัฒนธรรมในที่ทำงานที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อการสื่อสารและการทำงานร่วมกันข้ามระดับชั้นและแผนก ยกตัวอย่างเช่น การส่งเสริมให้ประชุมแบบตัวต่อตัวและการสื่อสารที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันระหว่างผู้จัดการและพนักงาน
ประการที่สาม เราส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีของพนักงานผ่านโครงการต่างๆ ของบริษัท อาทิ โครงการให้ความช่วยเหลือพนักงานที่มอบบริการให้คำปรึกษาแบบปิดเป็นความลับสำหรับปัญหาทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน นอกจากนี้ เรายังมีการนำเสนอเวิร์กชอปด้านสุขภาวะและสุขภาพที่ดีต่างๆ เพื่อช่วยให้พนักงานมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าโครงการเหล่านี้ประสบผลสำเร็จ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีค่าตัวแปรที่ชัดเจนสำหรับการวัดความยืดหยุ่นของพนักงาน โดยเรามีการติดตามผลเกณฑ์วัดหลักๆ เช่น พฤติกรรมการขาดงาน การมีส่วนร่วมของพนักงาน และประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้เรายังรับฟังความคิดเห็นของผู้จัดการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงาน แรงจูงใจ และระดับการมีส่วนร่วมของพนักงานด้วย
FB จะนิยามวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทอย่างไร และมีจุดใดบ้างที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม
Gwen Wong: การกำหนดนิยามวัฒนธรรมการทำงานในเชิงบวกนับเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างพนักงานที่มีประสิทธิภาพและรู้สึกมีส่วนร่วม FB นั้นมีการบอกกล่าวถึงอัตลักษณ์องค์กร วิสัยทัศน์ และพันธกิจอยู่เสมอผ่านแพลตฟอร์มการสื่อสารที่หลากหลาย ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้นโยบายและพฤติกรรมต่างๆ ของเรานั้นสอดคล้องกับทิศทางโดยรวมขององค์กรที่จะผสานรวมวัฒนธรรมในสถานที่ทำงานของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
สิ่งที่เรายังต้องพัฒนาต่อไปก็คือการยกระดับศักยภาพของพนักงานในด้านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เราควรส่งเสริมให้พนักงานกล้าเสี่ยงและมอบสภาพแวดล้อมที่ช่วยสนับสนุนให้พวกเขาทดลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะล้มเหลว
ทรัพยากรบุคคลและอนาคตของการทำงาน
เทรนด์ในด้านทรัพยากรบุคคลที่น่าจับตาในช่วงนี้มีอะไรบ้าง มี AI หรือเทคโนโลยีอื่นๆ หรือไม่ที่จะสามารถนำมาช่วยส่งเสริมพนักงานแห่งอนาคตให้กับ FB
Gwen Wong: มีค่ะ เราสามารถนำ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการขั้นตอนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจ เช่น เมื่อเรานำ AI มาใช้เพื่อช่วยด้านงานเอกสารที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การกรอกข้อมูล พนักงานก็จะมีเวลาให้กับการทำงานที่ท้าทายและมีคุณค่ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ AI เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นในการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของพนักงาน และการวิเคราะห์เชิงทำนายสำหรับความต้องการด้านพนักงานในอนาคต
อีกเทรนด์หนึ่งซึ่งกำลังได้รับความนิยมก็คือรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อการผสานระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีขึ้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าวัฒนธรรมการทำงานแบบดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นนั้นเป็นการทำงานในสำนักงานและมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน แต่ว่านับจากเกิดภาวะโรคระบาด เราก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัว โดยเริ่มเปลี่ยนจากวัฒนธรรมการทำงานแบบดั้งเดิมด้วยการอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้หนึ่งถึงสองวันต่อสัปดาห์ ซึ่งรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดนี้ก็นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของพนักงาน การรักษาพนักงานที่มีความสามารถ และจุดดึงดูดที่ทำให้พนักงานอยากมาทำงานกับเรา
นอกเหนือจากการนำข้อมูลเชิงลึกมาจากพนักงานโดยตรงแล้ว ผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลอย่างเช่นคุณเกวนนั้นใช้วิธีใดบ้างในการมองภาพรวมเพื่อจะได้เข้าใจถึงเทรนด์ด้านพนักงานที่กำลังเปลี่ยนไป
ผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลนั้นมักจะมองภาพรวมของโลกด้วยการเชื่อมต่อกับชุมชนของฝ่ายทรัพยากรบุคคลทั่วโลก เช่น จากรายงานการสำรวจของแต่ละอุตสาหกรรมและเข้าร่วมการประชุมและงานกิจกรรมเสริมสร้างเครือข่ายด้านทรัพยากรบุคคลต่างๆ นอกจากนี้ เรายังต้องทำงานร่วมกับผู้นำธุรกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อระบุทราบช่องว่างด้านทักษะที่ยังขาดหาย พัฒนากลยุทธ์ด้านพนักงานที่มีความสามารถ และวางแผนเพื่อรองรับความต้องการพนักงานในอนาคต
ในโลกของการทำงานยุคใหม่นี้ ผู้นำธุรกิจจำเป็นต้องสร้างคุณค่าเพื่อดึงดูดใจพนักงาน แล้วฝ่ายทรัพยากรบุคคลนั้นจะมีส่วนช่วยสร้างคุณค่าในหมู่พนักงานที่อยู่กระจายตามที่ต่างๆ ได้อย่างไร
Gwen Wong: พนักงานที่อยู่กระจายตามที่ต่างๆ ก็คือกลุ่มพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลในหลายแห่งที่แตกต่างกัน แทนที่จะทำงานอยู่ด้วยกันทั้งหมดในสำนักงานส่วนกลางแห่งเดียว ซึ่งนั่นอาจเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการคงรักษาความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทีม
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถช่วยให้บริหารจัดการพนักงานที่อยู่กระจายตามที่ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพได้หลายวิธีด้วยกัน ข้อแรกก็คือการเป็นผู้ริเริ่มในการพัฒนานโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่นซึ่งระบุความคาดหวัง คู่มือ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานระยะไกลหรือการทำงานแบบยืดหยุ่น ข้อสอง สร้างช่องทางการสื่อสารที่ใช้กันเป็นประจำ เช่น การเช็คอินและการประชุมทีม เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลจะรู้สึกเชื่อมโยงกับทีมและองค์กรโดยรวม และข้อสุดท้ายก็คือการมีบทบาทสำคัญในการวางกระบวนการให้คำติชมอย่างต่อเนื่องสำหรับพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล ซึ่งช่วยให้ทราบถึงจุดที่ควรปรับปรุง
ในยุคหลังภาวะโรคระบาดนี้ การสร้างคุณค่าสำหรับพนักงานและการสร้างความยืดหยุ่นในที่ทำงานล้วนนำไปสู่สิ่งเดียวกัน เราต้องการสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานสามารถรับมือกับความเครียดและความมุ่งหวัง และทำงานได้ดีภายใต้แรงกดดัน พนักงานที่มีความยืดหยุ่นจะสามารถปรับตัว ฟื้นฟู และกลับมายืนได้เหมือนเดิมเมื่อเผชิญความท้าทาย ความไม่แน่นอนนั้นมีอยู่เสมอ แต่เมื่อเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในแง่ของทัศนคติ ทักษะ และความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะความท้าทายในรูปแบบไหน เราก็พร้อมรับมือได้เสมอ
"หนึ่งในลักษณะสำคัญของแรงงานที่ยืดหยุ่นก็คือการมีทัศนคติแบบมุ่งสร้างการเจริญเติบโต คนที่มีทัศนคติเช่นนี้จะมองว่าความท้าทายและความล้มเหลวคือโอกาสที่จะได้เรียนรู้และเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก เราควรมอบสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะล้มเหลว เราเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จและเรียนรู้จากความล้มเหลวเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมของการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง"