เอาชนะความเปลี่ยนแปลงด้วยความมุ่งมั่นและความคล่องตัว: ศักยภาพในการสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจ
ในตอนที่ 2 ของการพูดคุยกับคุณมาซาสึกุ ไนโตะ ประธานบริษัท ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น เอเชียแปซิฟิกเราได้อภิปรายเกี่ยวกับบทบาทของการปฏิรูปทางดิจิทัลในการเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการดำเนินธุรกิจ และความสำคัญของการเป็นผู้นำที่เปี่ยมนวัตกรรมในการวางวิสัยทัศน์เพื่อรองรับความยืดหยุ่นในอนาคต
เช่นเดียวกับคำศัพท์อื่นๆ ความนิยมของการปฏิรูปทางดิจิทัลนั้นเกิดขึ้นหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และตอนนี้ฟูจิฟิล์ม บิสซิเนส อินโนเวชั่น ก็มีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ พร้อมให้บริการในด้านนี้อย่างครบครัน คุณเชื่อว่าการหยุดชะงักนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความจำเป็นในการปฏิรูปทางดิจิทัลใช่หรือไม่ คุณคิดว่าการดำเนินการเพื่อสร้างความยืดหยุ่นในด้านนี้เป็นอย่างไรบ้าง
มาซาสึกุ ไนโตะ: การปฏิรูปทางดิจิทัลนั้นเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 คงไม่เกินไปนักที่จะกล่าวว่าการปฏิรูปทางดิจิทัลนั้นจะเป็นการวางแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคตอย่างถาวร
ศักยภาพของเรานั้นอยู่ที่การสร้างโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้า เราให้เวลากับการทำความเข้าใจถึงข้อกังวลด้านโครงสร้างของลูกค้า ด้วยการพิจารณาปัญหากวนใจที่เกิดขึ้นตลอดทั้งกระบวนการ จากจุดนั้น เราก็นำมาพัฒนาเป็นโซลูชันปลายเปิดที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ให้กับทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการ แทนที่จะเป็นบุคคลเพียงคนเดียว เราวิเคราะห์ถึงความต้องการของลูกค้าอย่างถี่ถ้วนและเลือกใช้โซลูชันของเราที่เหมาะสม ทั้งของเทคโนโลยีของพันธมิตรที่เราไว้วางใจได้ ผมเชื่อว่าคุณค่าเฉพาะตัวของเรานั้นอยู่ที่ความสามารถในการระบุทราบถึงความไม่สอดประสานกันระหว่างการทำงานในสายงานต่างๆ จากนั้นจึงใช้นวัตกรรมมาช่วยปิดช่องว่างดังกล่าว
เพราะอย่างนี้นี่เอง เราผสานความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำของพันธมิตรที่เราไว้วางใจ เพื่อนำไปสู่การสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าในแบบองค์รวมยิ่งขึ้น การส่งมอบโซลูชันแบบจากต้นจนจบนั้นช่วยให้ลูกค้ามองเห็นจุดเด่นของเราได้ชัดเจนขึ้นอย่างที่คุณมาซาสึกุกล่าวนั่นเอง
มาซาสึกุ ไนโตะ: หนึ่งในตัวอย่างที่ดีก็คือการทำงานกับลูกค้าในธุรกิจประกันภัยและการธนาคารที่ต้องมีการใช้งานข้อมูลอ่อนไหว ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนด้วยกัน เทคโนโลยี Ripcord OCR (การอ่านภาพอักขระ) ของเราเองนั้นเป็นประโยชน์ต่อส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ ในขั้นตอนการสแกนและเก็บข้อมูล ไม่นานมานี้ผมเพิ่งได้พบพันธมิตรภายนอกรายหนึ่งซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI มาก เราวางแผนจะผสานรวมเทคโนโลยีนี้ ซึ่งนั่นไม่เพียงแต่แก้ปัญหาตรงหน้าเท่านั้น แต่ยังจะช่วยยกระดับกระบวนการธุรกิจอีกด้วย ดังนั้น นอกจากการบันทึกและทำดัชนีข้อมูลแล้ว ลูกค้าก็จะสามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้นด้วยการนำความสามารถของ AI มาใช้ในการคำนวณและประเมินค่าเรียกร้องสินไหมโดยอ้างอิงจากข้อมูลของลูกค้าที่เคยเก็บบันทึกเอาไว้ เราไม่เพียงแค่ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการขั้นตอนต่างๆ ในการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับธุรกิจให้ก้าวไปอีกขั้น เพื่อให้พวกเขามีอุปกรณ์ที่ครบครันในการเผชิญกับความท้าทายที่รออยู่พร้อมคว้าโอกาสที่มาในยุคปกติใหม่นี้ด้วย นั่นก็คือความหมายของการสร้างความยืดหยุ่นของเรา
คุณมองเห็นเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าจะกลายมาเป็นตัวกำหนดทิศทางของธุรกิจบ้างหรือไม่
Masatsugu Naito: ในอดีตที่ผ่านมา เป้าหมายหลักของบริษัทต่างๆ นั้นอยู่ที่การสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุน แต่เมื่อเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เน้นความเป็นปัจเจกบุคคลเริ่มแพร่หลาย น้ำหนักของความสำคัญก็เปลี่ยนไปอยู่ที่การเป็นบริษัทที่มีความยั่งยืนซึ่งสามารถปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้ แทนที่จะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นแต่เพียงอย่างเดียว ลองดูตัวอย่างจากผลิตภัณฑ์ Fujifilm Instax ฟิล์มแบบ Instant นั้นได้รับความนิยมเพราะตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการถ่ายภาพช่วงเวลาในแบบนี้ และก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญในไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกัน หากต้องการประสบความสำเร็จ องค์กรก็จะต้องเริ่มคิดว่าจะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แทนที่จะโฟกัสอยู่กับแค่นักลงทุน
คุณเคยมีประสบการณ์ในการบริหารในหลายประเทศซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็มักถูกเรียกว่านวัตกรรม คุณมีคำแนะนำอะไรบ้างให้กับผู้นำธุรกิจที่ต้องการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กรของตน
มาซาสึกุ ไนโตะ: ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมเปิดรับนวัตกรรมใหม่ๆ นั้น ผู้นำธุรกิจจำเป็นต้องสร้างวิสัยทัศน์ในด้านการเปลี่ยนแปลง การจะทำให้วิสัยทัศน์นี้ประสบความสำเร็จ ผู้นำก็จะต้องสร้างสายสัมพันธ์กับพนักงานเพื่อรับรองให้พวกเขากล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และไม่เกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง ในการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กรนั้น คุณจะต้องมีพนักงานที่มีความสนใจและเต็มไปด้วยแรงผลักดัน และยินดีที่จะก้าวข้ามคอมฟอร์มโซนของตนเองเพื่อที่จะคิดอย่างสร้างสรรค์และทดลองสิ่งใหม่ๆ
พร้อมเผชิญความเปลี่ยนแปลงและมองว่านี่คือโอกาสสำหรับการเติบโตและการพัฒนาปรับปรุง
สร้างศักยภาพด้านความคล่องตัวในระดับองค์กร โดยที่ยังคงรักษาแนวทางที่ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีเอาไว้
"พร้อมเผชิญความเปลี่ยนแปลงและมองว่านี่คือโอกาสสำหรับการเติบโตและการพัฒนาปรับปรุง
สร้างศักยภาพด้านความคล่องตัวในระดับองค์กร โดยที่ยังคงรักษาแนวทางที่ไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีเอาไว้."