กรุงเทพฯ 14 สิงหาคม 2567 - บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ตโฟนปรินเตอร์รุ่นล่าสุด instax mini Link 3 ที่สามารถปรินต์ภาพจากสมาร์ตโฟนลงบนฟิล์ม instax ขนาดมินิ โดย Link 3 เป็นรุ่นที่ 3 ของซีรีส์ instax mini Link ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกชื่นชอบด้วยหลากหลายลูกเล่นที่ทำให้ความทรงจำระหว่างกลุ่มเพื่อนพิเศษกว่าเคย ตัวกล้องมาพร้อมสองฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ instax AiR Studio ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายรูปด้วยเอฟเฟกต์ AR แบบ 3 มิติลงในภาพถ่ายได้ และ Click to Collage ที่สร้างภาพปะต่อจากหลาย ๆ ช็อต เหมือนการถ่ายรูปที่โฟโต้บูธ โดยฟังก์ชันใหม่เหล่านี้ช่วยมอบช่วงเวลาสนุก ๆ ให้กลุ่มเพื่อนทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ทำให้การถ่ายและปรินต์ภาพสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน โดยฟูจิฟิล์มจะจัดกิจกรรมพิเศษให้ผู้ที่สนใจได้มาทดลองใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้ที่ Libi Home ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม - 10 กันยายน เวลา 9.00 - 18.00 น.
ดีไซน์ตัวเครื่องรุ่นใหม่วางโลโก้ instax ไว้บนลายเส้นแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ mini Link พร้อมด้วยไฟ LED สามสีบนโลโก้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเปิดเครื่อง สะท้อนความสนุกสนานตามแบบฉบับของ Link 3 ได้เป็นอย่างดี โดยตัวเครื่องของ Link 3 มาใน 3 สีสันที่เข้ากับยุคสมัย ได้แก่ สีขาว CLAY WHITE, สีชมพู ROSE PINK และสีเขียว SAGE GREEN ตอบโจทย์ความชอบและสะท้อนตัวตนของผู้ใช้แต่ละคน
instax mini Link 3 ใน 3 สีสัน
นอกจากนี้ ฟูจิฟิล์ม ยังประกาศวางจำหน่ายฟิล์มขนาดมินิรุ่นใหม่ "SPRINKLES" ที่จะเพิ่มความสนุกให้กับการถ่ายภาพด้วยดีไซน์สีสันสดใสที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลวดลายเม็ดน้ำตาลตกแต่งขนมหลากสีสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเอฟเฟกต์ AR ใน instax AiR Studio อีกด้วย
ฟิล์ม instax ขนาดมินิ “SPRINKLES”
คุณสมบัติหลักของ instax mini Link 3
-
ปรินต์ภาพนิ่งหรือช็อตจากวิดีโอได้อย่างสะดวก
ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปภาพที่เก็บไว้ในสมาร์ตโฟนก่อนจะปรินต์ออกมาได้สะดวกสบายผ่านแอปที่ใช้งานง่าย จะเพิ่มหรือลดขนาด หมุนภาพ ใส่ฟิลเตอร์ หรือปรับความสว่างก็ทำได้ดั่งใจ นอกจากนี้ยังใช้แอปเพื่อนำเข้าและแก้ไขวิดีโอในสมาร์ตโฟนได้ หรือจะเลื่อนดูเฟรมวิดีโอเพื่อเลือกปรินต์ช็อตที่ดีที่สุดได้เช่นกัน
(2)ตกแต่งรูปถ่ายด้วยเอฟเฟกต์ AR สามมิติ ผ่านฟังก์ชัน instax AiR Studio
- ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ผสมผสานเอฟเฟกต์ AR แบบสามมิติได้ตามต้องการเพื่อตกแต่งรูปผ่านฟีเจอร์ instax AiR Studio และสนุกกับการถ่ายภาพ วิดีโอ รวมถึงภาพปะต่อ
- มีเอฟเฟกต์ AR ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ “Back” สำหรับสร้างฉากหลัง “Decor” สำหรับตกแต่งบริเวณรอบ ๆ และ “Effect” สำหรับสร้างภาพถ่ายที่โดนใจด้วยเอฟเฟกต์ AR ที่เคลื่อนไหวได้ จะเลือกใช้เอฟเฟกต์ AR เพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานหลาย ๆ อย่างเพื่อตกแต่งก็ทำได้ตามใจ
- ฟังก์ชัน Remote Live View ช่วยให้ผู้ใช้แชร์ภาพจากกล้องกับคนอื่น โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ตโฟนอีกเครื่องจะเป็นการแชร์วิดีโอแบบเรียลไทม์กับคนที่อยู่ในเฟรม พร้อมกับดูเอฟเฟกต์ AR ไปด้วยได้
(3)เสกภาพที่ถ่ายให้เป็นสไตล์ภาพปะต่อเหมือนถ่ายที่โฟโต้บูธด้วยฟังก์ชัน Click to Collage
・ฟีเจอร์ Click to Collage ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพปะต่อได้ผ่านแอปได้โดยสามารถเปลี่ยนท่าทางตอนถ่ายภาพได้สูงสุด 6 ภาพ และมีการนับถอยหลัง 3-2-1 แสดงบนหน้าจอในการถ่ายแต่ละรูป เป็นการเก็บช่วงเวลาแห่งความสุขที่ไม่เหมือนใคร คล้ายกับการถ่ายภาพในโฟโต้บูธ
・ เมื่อปรินต์ภาพปะต่อที่สร้างขึ้นด้วย Link 3 ฟีเจอร์ instax Animation จะรวมแต่ละภาพเข้าด้วยกันเป็นวิดีโอแบบ ฟลิปบุ๊ก โดยผู้ใช้สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรินต์บนภาพ instax เพื่อดูวิดีโอ, ปรินต์รูปจากวิดีโอฟลิปบุ๊กให้กับเพื่อนและครอบครัว หรือจะกดแชร์ลงในโซเชียลมีเดียก็ทำได้
(4)สนุกกับการปรินต์ภาพไปอีกขั้นด้วย instax UP! เวอร์ชันใหม่
แอป instax UP! ได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งสามารถแปลงภาพปรินต์ instax เป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดายผ่านการสแกนภาพปรินต์รวมถึงกรอบภาพ โดยยังได้โทนสีอันนุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ของ instax แอปนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอปของ Link 3 ได้ จึงส่งภาพปรินต์ instax จากแอปไปยัง instax UP! เพื่อเก็บไฟล์ในรูปแบบดิจิทัลได้
การอัปเดตล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า instax Days ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างปฏิทินส่วนตัวด้วยการเพิ่มชื่อกิจกรรมลงในภาพปรินต์ instax ที่ถ่ายไว้ โดยสามารถจัดเรียงภาพที่สแกนไว้หรือส่งมาจากแอป Link 3 ตามวันที่ได้ ทำให้ย้อนกลับไปดูความทรงจำได้สะดวก นอกจากนี้ instax Days ยังเพิ่มความสนุกในการปรินต์ภาพ instax เพราะสามารถโพสต์ปฏิทินของตนเองไปยังโซเชียลมีเดียได้โดยตรงผ่าน instax UP! เพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ ได้
ฟูจิฟิล์มยังประกาศเปิดตัว instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit รุ่นลิมิเต็ดของ instax mini Evo (mini Evo) กล้องอินสแตนท์ระดับแฟล็กชิปในซีรีส์ instax โดยกล้องรุ่นพิเศษนี้มีวางจำหน่ายในจำนวนจำกัดเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลก เพื่อฉลองครบรอบ 90 ปีของฟูจิฟิล์ม ตัวกล้องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีทอง TITANIUM GOLD และ สีเงิน DARK SILVER นอกจากนี้กล้องรุ่นพิเศษยังประกอบด้วยฝาปิดเลนส์ สายคล้อง และเคสกล้อง โดยดีไซน์ตัวกล้องและอุปกรณ์เสริมสีพิเศษมอบความรู้สึกพรีเมียม
mini Evo เป็นกล้องอินสแตนท์ไฮบริดที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล รองรับการใช้ฟิล์มขนาดมินิที่เปิดตัวในปี 2021 ตัวกล้องมาพร้อมรูปแบบเลนส์ 10 แบบ เช่น Soft Focus และ Light Leak รวมถึงรูปแบบฟิล์ม 10 แบบ เช่น Monochrome และ Retro ซึ่งผู้ใช้สามารถนำทั้งสองเอฟเฟกต์มาใช้ร่วมกันเพื่อถ่ายทอดภาพถ่ายได้ถึง 100 แบบ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้ได้เต็มที่ผ่านการปรินต์ภาพจากกล้อง instax นอกจากนี้ตัวกล้องยังมีดีไซน์พรีเมียมและคลาสสิก ออกแบบให้มีประสบการณ์การใช้งานแบบอนาล็อก ทั้งเลนส์มือหมุน แป้นปรับฟิล์ม และคันโยกปรินต์ ที่ให้สัมผัสและเสียงในการใช้งานแบบกล้องอนาล็อก นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายน 2023 ฟูจิฟิล์มได้เปิดตัวกล้องสีน้ำตาลใหม่มาเพิ่มนอกจากสีดำ
วันวางจำหน่ายและราคา
instax mini Link 3 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2024 ในราคา 4,490 บาท ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของฟูจิฟิล์ม ส่วนกล้อง instax mini Evo FUJIFILM 90th Anniversary Special Kit ซึ่งมีจำนวนจำกัดเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลก จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ติดตามอัปเดตล่าสุดได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Instax Thailand
ติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับกล้อง instax ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Instax Thailand, IG: @instax_thailand, Line OA: @instaxthailand และติดต่องานหรือธุรกิจได้ที่ instaxthmarketing@gmail.com